วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สิ่งที่เป็นอันตรายต่อสีรถ


สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

รถคันโปรดก่อนซื้อก็เลือกสีที่สวยสีที่ชอบบางคนถึงขนาดสั่งทำสีพิเศษสำหรับรถตัวเอง แต่พอได้มาก็อยากให้รถของเราสีสวยสดใหม่อยู่ตลอดเวลา ขับๆ ไปหินกระเด็นโดนเหมือนใจจะขาด ขับรถเจอหลุมแอ่งน้ำก็ต้องคอยหลบทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งดินและโคลนสารพัดจัดหามาทำลายสีและตัวถังรถ เรามาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้รถเราต้องหมองหม่น และเราควรหลีกเลี่ยง

- ฝุ่นละอองและคราบสกปรกบนท้องถนน เช่น แมลง เขม่า ขี้นก สารประกอบประเภทด่าง ยางไม้ และบรรดาสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อสีรถได้ถ้าปล่อยทิ้งไว้
- ฝุ่นควันในเขตโรงงานอุตสาหกรรมก็เป็น ‘ปัจจัย’ ทำลายสีรถที่เรารักได้เช่นกัน ถ้ายิ่ง มีสารประกอบประเภทSulfur dioxide ที่เราเรียกกันว่า 'ฝนกรด' นี่แหละตัวดีเลยในการทำร้ายสีรถของเรา
- บ้านใครอยู่ติดชายาฝั่งทะเล ไอเกลือไอทะเลก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับรถของเรา
- ยิ่งความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงมาก อากาศที่มีความชื้นสูง รถที่มีสีอ่อนสามารถเกิดความร้อน 80 องศาเซลเซียส และรถที่มีสีทึบสามารถเกิดความร้อนถึง 120 องศาเซลเซียส ถ้าจอดทิ้งไว้กลางแดดนาน ๆ อาจทำให้สีเริ่มแตกได้โดยเฉพาะพื้นที่รับแสงอาทิตย์เต็ม ๆ เช่น บริเวณหลังคาและฝากระโปรงรถ
- กรวดทรายบนท้องถนนอาจทำให้พื้นผิวของสีถลอก ซึ่งจะทำให้เกิดสนิมตามบริเวณบังโคลน
ลองคลิกดูผลิตภัณฑ์ล้างรถดูสิครับ

สิ่งน่ารู้ของการรักษาสีรถ

ถ้าเราหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ ตามที่บอกมาแล้วไม่ได้ การรักษาสีรถที่ดีที่สุดก็คือการล้างรถบ่อยๆ โดยไม่ปล่อยให้บรรดา ตัวอันตรายต่างๆ ทำร้ายรถและเกาะอยู่บนตัวถึงรถของเรานานๆ แต่ทั้งนี้การล้างรถควรจะต้องคำนึงถึงการปฏิบัติอย่างถูกวิธีด้วย ประเภทสักแต่ว่าล้างหรือ ‘ล้างลูกเดียว’ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเด็กปั๊มหรือเวลาล้างพวกรถแท็กซี่ที่มุ่งปริมาณ มากกว่าคุณภาพอย่าล้างรถท่ามกลางแสงแดดร้อนจัด ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแสงแดดหรือเพิ่งเสร็จสิ้นจากการเดินทาง ความร้อนที่ฝากระโปรงยังมีอยู่ควรปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง จนกระทั่งผิวรถเย็นจึงค่อยจัดการล้างทำความสะอาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น