ขั้นตอนการล้างรถด้วยตนเอง
|
การล้างรถด้วยตนเองควรใส่ชุดที่เหมาะสม |
- ควรล้างรถเมื่อเห็นว่าสีเริ่มสกปรก หรือจะล้างประมาณ 1 สัปดาห์ต่อครั้งก็ได้
- ควรล้างน้ำมันเบนซิน จาระบี น้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเบรคทันทีเมื่อโดนสีของรถ ถึงสีรถของคุณจะเป็นยี่ห้อพิเศษที่ทนไฟทนน้ำมันเบรกก็ตามที
- กำจัดแมลงที่บินติดตัวถึงรถก่อนการล้างรถทุกครั้ง
- อย่าละเลยการทำความสะอาด บริเวณฝากระโปรงหน้าและหลัง บริเวณขอบประตู
- ขณะฤดูฝนหมั่นล้างทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น ห้ามคิดว่าเดี๋ยวฝนก็ตกรถก็เลอะอีก เพราะว่าโคลนที่เกาะตามตัวถังรถ เมื่อเกาะที่ตัวถังเป็นจำนวนมากจะแข็งทำให้ล้างยาก และเป็นอันตรายต่อสีรถ
- อย่าลืมดูดฝุ่นภายในให้สะอาด นำพรมปูรถมาฉีดล้างให้สะอาด
- ขั้นตอนแรกในการล้าง ควรใช้น้ำฉีดล้างคราบโคลนสิ่งสกปรกให้ละลายเสียก่อน โดยใช้น้ำเปล่าราดให้เปียกทั้งคัน แล้วจึงใช้ผ้านุ่มค่อยๆถูออก อย่าออกแรงกดเพราะจำทำลายสีรถ หากเป็นคราบแข็งให้ค่อยๆ ฉีดน้ำเบาๆ จนคราบอ่อนตัวลงแล้วจึงถูเบาๆ
- เริ่มล้างจากด้านบนหลังคารถเสมอแล้วไล่มายังบริเวณฝากระโปรงรถ
- ในส่วนล่างหรือล้อควรล้างในขั้นตอนสุดท้ายและอย่าใช้ฟองน้ำปนกันกับที่ล้างส่วนบนตัวรถ
- ในกรณีที่ใช้แชมพูล้างรถ ต้องล้างน้ำธรรมดาอีกครั้ง และห้ามใช้ผงซักฟอกล้างรถเด็ดขาด
- เมื่อล้างน้ำเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าชามัวส์หรือผ้านุ่มสะอาด เช็ดให้แห้งอย่าให้มีหยดน้ำเหลือติดบนตัวถังรถ เรพาะเมื่อเวลาแห้งมันจะเป็นรอยคราบขาวๆ เอาไว้ ยิ่งเป็นรถสีทึบก็จะเห็นเป็นรอยอย่างชัดเจน
- รอยสกปรกที่ยังค้างอยู่บนสีของรถ ให้เช็ดออกด้วยน้ำยาทำความสะอาดทันที
- หลังจากล้างรถแล้วเบรกอาจจะเปียกชื้น เพื่อความแน่ใจในความปลอภัยก่อนออกรถทุกครั้งหลังล้างรถ ควรเหยียบห้ามล้อย้ำๆ เพื่อไล่ความชื้นบนผ้าเบรก ทำให้ผ้าเบรกที่เปียกน้ำหมดไป
*หลังจากล้างรถเสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรดึงเบรกมือ เพราะอาจจะยังมีน้ำเกาะอยู่ที่จานเบรก (ตอนล้างล้อ) ทำให้เกิดอาการ ‘เบรกติด’ ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น